จันทบุรี เที่ยวได้ทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ Delicious Destination @ Chanthaburi EP. ไม่มีทุเรียนให้ฉีก ก็เที่ยวสวนทุเรียนได้
เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) จัดโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในพื้นที่พิเศษของ อพท. เพื่อสร้างทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร ให้เป็นทางเลือกกับนักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชน ลดช่องว่างการเหลื่อมล้ำทางสังคม และอนุรักษ์อาหารถิ่นให้คงอยู่คู่ไทย โดยเริ่มต้นที่จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรก ทริปนี้เดินทางมาที่จังหวัดจันทรบุรีเป็นจังหวัดที่ 2 ในกิจกรรม “จันทบุรี เที่ยวได้ทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ” Delicious Destination @ Chanthaburi EP. ไม่มีทุเรียนให้ฉีก ก็เที่ยวสวนทุเรียนได้
จ้งหว้ดจันทบุรี เป็นเมืองเก่าโบราณ ขุดพบเครื่องมือ เครื่องใช้ ยุคหินมาก่อน ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ชนพื้นเมือง “ชาวชอง” เริ่มเข้ามาตั้งรกรากอยู่ตามแนวป่า บริเวณจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด ซึ่งป่าไม้อุดมสมบรูณ์ของป่าก็มาก เหมาะแก่การดำรงค์ชีวิต และสมุนไพรก็มีอยู่ทั่วไปหมด ในสมัยก่อนชาวชองดำรงชีพด้วยการเก็บของป่าออกมาขาย เมืองจันท์ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยกทัพมารวบร่วมไพร่พลเพื่อกลับไปกอบกู้อิสระภาพให้กรุงศรีอยุธยา เมืองจันท์เมืองที่คนมีมิตรไมตรี ป่าบนเขาเขียวขจี น้ำตกหลายธาร ทะเลสีคราม พืชผักผลไม้หลายสวน อาหารทะเลสด อาหารพื้นเมืองอร่อย
ไหว้ศาลาหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
เส้นทาง “Delicious Destination” ได้เดินทางจากภาคกลางจังหวัดเพชรบุรี มาภาคตะวันออกที่จังหวัดจันทรบุรี ก่อนที่จะท่องเที่ยวเมืองจันทบุรีก็ต้องมากราบศาลหลังเมืองกันก่อนครับ ศาลหลักเมืองจันทบุรี ตั้งอยู่ด้านหน้าค่ายตากสิน ถนนท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สันนิษฐานว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2310 ครั้งเสด็จยกทัพมาเมืองจันทบุรี
เพื่อใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พล และเสบียงอาหาร ก่อนยกทัพไปกอบกู้อิสระภาพให้กรุงศรีอยุธยา แต่เดิมเป็นศาลไม้ธรรมดา ต่อมาในปี พ.ศ. 2524 จังหวัดจันทบุรีได้ก่อสร้างศาล ตั้งเสาหลักเมือง และหล่อองค์เจ้าพ่อขึ้นใหม่ เป็นอาคารทรงไทยแบบจัตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้าใบระกาครบ ตามแบบสถาปัตยกรรมกรุงรัตนโกสินทร์
กราบขอพร ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เดินข้ามถนนหน้าค่ายตากสินมากราบขอพร ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอให้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คุ้มเดินทางปลอดภัย ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เดิมเป็นศาลไม้อยู่ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ต่อมาในปี 2463 ได้สร้างศาลขึ้นใหม่บริเวณด้านหน้าค่ายตากสิน คนละฝั่งถนนกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นศาลาสร้างคอนกรีตก่ออิฐถือปูนสี่เหลี่ยมจัตุรมุตข แต่ยังไม่มีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ในปี พ.ศ. 2534 ชาวจันทบุรีได้ร่วมกันบริจาคเงิน สร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้นใหม่อีกหลัง เป็นศาลทรงเก้าเหลี่ยมหลังคาเป็นรูปพระมาลา ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ ผนังภายในเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ไว้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองจันทร์ ต้องมากราบขอพรต่อองค์พระเจ้าตากสินมหาราช ใหม่คุ้มครองเดินทางปลอดภัยกันเกือบทุกคน
จิบกาแฟผัก ออร์แกนิก คิชฌกูฎฟาร์ม
ออร์แกนิก คิชฌกูฎฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ ตำบลตะเคียนทอง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี จากสวนผลไม้ สวนยางพารา ที่ทำรายได้เพียงปีละครั้ง เปลี่ยนแนวคิดต้องการให้มีรายได้ทุกวัน จึงปรับพื้นที่สวนบางส่วน มาปลูกผักผักออร์แกนิค และผักไฮโดรโปรนิค เช่นเรดโอ๊ค เรดโครอล ไมโครกรีน ส่งขายในห้างดัง ผลผลิตไม่พอขายจึงชักชวนคนในชุมชนมาช่วยกันปลูก จะรับช่วยรับซื้อส่งขายต่อให้
พร้อมเปิดหน้าร้าน ขายผักสลัดในฟาร์ม นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาเก็บผักออร์แกนิกสดๆ ซื้อกลับบ้านได้ตามต้องการ ถ้าอยากจะนั่งทานที่ร้านก็มีบริการปรุงให้ น้ำสลัดก็มีให้เลือกหลายรส อาหารภายในร้านก็มีสุขภาพให้เลือกหลายเมนู ถูกใจสายกรีนอย่างแน่นอน
คณะของเรามาที่ คิชฌกูฎฟาร์ม ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ได้รับการต้อนด้วยเวลคัมดริ้งของทางร้านก็คือกาแฟผัก ออร์แกนิก เป็นกาแฟอเมริกาโนเย็นแต่ไม่ใช้ syrup เพื่อเพิ่มความหวาน แต่ใส่เป็นน้ำผักออร์แกนิกปั่นแทน ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นให้รสชาติแปลกใหม่ ยังให้รสเข้มอ่อนๆของกาแฟ ได้ความหวานน้อยจากน้ำผัก เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างยิ่งมาแล้วต้องลองครับ
ก่อนมื้อกลางวันทางร้านมี Workshop ให้คณะของเราได้ร่วมทดลองทำกัน 2 เมนู เมนูแรก “กิมจิผักออร์แกนิก” ส่วนผสมที่ใช้ทำกิมจิก็มี กรีนคอรอล บัตเตอร์เฮด เรดโอ๊ค แอปเปิ้ล แตงกวา หัวหอมใหญ่ กระเทียม แครอท น้ำตาลทราย แป้งข้าวเหนียว พริกป่นเกาหลี น้ำปลา วิธีทำนำ แอปเปิ้ล แตงกวา หัวหอมใหญ่ กระเทียม แครอท มาใส่ในกระมัง ใส่น้ำปลา ตามลงไปคลุกให้เข้ากันก่อน
จากนั้นใส่แป้งข้าวเหนียวลงไปแล้วคลุกให้เข้ากันอีกที แล้วค่อยใส่พริกป่นเกาหลีลงไปคลุกอีก เสร็จแล้วใส่ กรีนคอรอล บัตเตอร์เฮด เรดโอ๊ค ลงไป คลุกให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย คลุกให้เข้ากันแล้วชิมรส ถ้าได้ตามต้องการแล้วนำไปใส่กล่องพลาสติกใส ให้นักท่องเที่ยวที่ทดลองทำ นำกลับแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน ก็จะรับประทานได้
เมนูที่ 2 ยำไก่ฉีก แบบ “อาหารชอง” ชนเผ่าดั่งเดิมของเมืองจันทบุรี ส่วนผสมที่ใช้ทำก็มี ไก่ฉีก ก็มี ผักชีฝรั่งซอย หอมแดงซอย ใบสะระแหน่ซอย ใบมะกอกซอย ใบกำจัดซอย มะม่วงดิบสับ มะพร้าวคั่ว พริกป่น น้ำตาลทราย พริกป่น
วิธีทำนำไก่ฉีกลงไปพร้อมกับหอมแดง ใบมะกอก ใบกำจัด คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คลุกให้เข้ากันอีกที แล้วใส่ มะพร้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ คลุกให้เข้ากันอีกรอบ ชาวชองจะไม่บีบมะนาวใส่ลงไปเพื่อให้ลดเปรี้ยว แต่จะใช้มะม่วงดิบสับใส่ลงไปแทนเพื่อให้รสเปรี้ยว ชิมรสได้ตามต้องการแล้วตักใส่ชามเสิร์ฟได้เลย
ที่ร้านนอกจะเมนูอาหารออร์แกนิก แล้วยังมีเมนู “อาหารชอง” ด้วย แต่ต้องสั่งล่วงหน้ามาก่อน และมื้อนี้ทางร้านเสิร์ฟ “อาหารชอง” ให้เรารับประทานกันด้วย เมนูก็มี แกงฟักทองไก่บ้าน ขาหมูต้มกระวาน น้ำพริกกระทิ ไข่เจียว ขนมจีน และยำไก่ฉีก เมนูพระเอกของงานก็คือ ยำไก่ฉีก ที่เราเพิ่งชมวิธีการทำไปเมื่อครู่นี้ รสชาติค่อนข้างจัด เผ็ดเปรี้ยว มาครบ ตามด้วยเค็ม หวานแทบไม่มี บรรยายให้เห็นภาพอย่างไรก็ไม่เท่ากับมาลองรสเองครับ
ไม่มีทุเรียนให้ฉีกก็มาเที่ยวได้ สวนพวงมณี
สวนพวงมณี ตั้งอยู่ที่ตำบล คมบาง อำเภอเมืองจันทบุรี นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยได้รับรู้ว่า ที่นี่ถึงแม้ ไม่มีทุเรียนให้ฉีกก็มาเที่ยวได้ เพราะในสวนทุเรียนบรรยากาศร่มรื่นมาก สะอาดโล่งโปร่งสบายไม่รกชัฏ แสดงว่าสวนทุเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ใช่น่าทุเรียนก็เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชมสวนได้ เจ้าของสวนมีเรื่องเกี่ยวกับสวนทุเรียนพวงมณี ที่จะเล่าให้ฟังมากมาย
คุณมงคล เฉิลมพงษ์ เจ้าของสวนคนปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า “สวนแห่งนี้ทำต่อกันมา 2 รุ่นแล้ว คุณพ่อผมเป็นรุ่นบุกเบิก ก่อนที่จะมามีชื่อเสียงอย่างในปัจจุบัน ทุเรียนพันธุ์พวงมะณีก็เป็นเพียงทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านเมืองจันทร์ทั่วไป คนแถวนี้เรียกว่า อีเนื้อแดง ลูกเล็ก เนื้อบาง เม็ดใหญ่ กลิ่นแรง เนื้อสีเหลืองทองเข้ม รสหวานนวลๆไม่หวานแหลม ถ้ากัดเข้าปากแล้วจะลืมหมอนทองไปเลย แต่เมื่อไปประกวดได้รางวัลกับมาก็เปลี่ยนเป็น พวงมณี ตามชื่อคุณแม่
ภายในสวนมีจุดให้เช็คอินถ่ายรูปหลายจุดเหมือนกัน นั่งชิลๆ บนต้นทุเรียนพวงมณี เบื่อแล้วยากจะไปปีนต้นทุเรียนเรียนร้อยปี หรือพันธุ์ฉัตรมงคล ที่คุณพ่อตั้งชื่อไว้ ที่มีเพียงต้นเดียวในโลก ก็ได้ ต้นมังคุดร้อยปีก็มีให้ดูครับ”
ถ้านักท่องเที่ยวต้องการที่จะทานอาหารกลางวันในสวนทุเรียน ทางสวนก็จัดให้ได้ครับ และวันนี้เขาสาธิตเมนูพื้นบ้านของเมืองจันท์ ที่จัดเป็นมื้อกลางวันให้ดู และชิมเป็นตัวอย่าง 2 เมนู เมนูแรกเป็น ข้าวคลุกพริกเกลือ น้ำจิ้มของเมนูนี้ก็คล้ายกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เนื่องจากเมื่อก่อนคนพื้นถิ่นต้องเข้าไปหาของป่า จึงตำพริกเกลือติดตัวไป เพื่อไปคลุกกับข้าวกินในป่า ทำกินกันทุกวันจึงเป็นเมนูประจำบ้านของคนเมืองจันท์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าทานมื้อไหนก็ต้องมีพริกเกลืออยู่บนโต๊ะอาหารทุกมื้อ
ส่วนผสมของพริกเกลือก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก มีกุ้งแห้ง พริกขี้หนูสวนเหลืองแดง รากผักชี กระเทียมกลีบ มะนาว เกลือ น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว วิธีทำ ตำพริกขี้หนูสวน รากผักชี กระเทียมกลีบ เกลือ พอหยาบ ใส่กุ้งแห้งตามลงไป ตำให้แล้วตำให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว ในอัตราส่วนที่เท่ากัน ด้วยน้ำตาลมะพร้าว ได้รสเผ็ดแซบ เปรี้ยวนำ ตามด้วยเค็ม หวานปะแล่มมานิดหน่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียงไข่ต้ม กุ้งต้ม หมูต้ม เข้ากันได้ดี
เมนูที่ 2 น้ำพริกระกำกุ้งสด ส่วนผสมก็มี กระเทียมกลีบ พริกขี้หนูสวนเขียวแดง มะนาว ระกำ กะปิกุ้งสด น้ำตาลมะพร้าว วิธีทำ ตำพริกขี้หนู กะปิ กระเทียม ให้พอแหลกก่อน แล้วใส่กุ้งสดลงไป ตำทั้งให้ละเอียดอีกที ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว ตำเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ระกำหันที่ใส่ลงไป จะได้รสความกลมกล่อมของระกำ ที่มีทั้งความหอม หวาน เปรี้ยว อยู่ในตัว ทานคู่กับ ข้าวคลุกพริกเกลือ อร่อยจนลืมข้าวเย็น ดูจากรูปภาพการสาธิต และอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว อยากมาทานให้รู้ถึงรสความอร่อยจริงๆเป็นยังไง ก็ขอเรียนเชิญ ไม่มีทุเรียนให้ฉีกก็มาเที่ยวได้ ที่สวนพวงมณี ได้ครับ
แกงหมูชะมวง ต้องที่ ร้านจันทรโภชนา (สาขามหาราช)
ยังไม่ทันหิวเลยเพิ่งอิ่มอร่อยกับเมนู ข้าวคลุกพริกเกลือ กับ น้ำพริกระกำกุ้งสด ที่สวนพวงมณีมาหยกๆ ก็ต้องมาทานอาหารเย็นกันแล้ว ร้านจันทรโภชนา (สาขามหาราช) ตั้งอยู่ที่ ถนนมหาราช ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี เป็นเรือนตึกแถวหัวมุมถนน ระเบียงหน้าร้านตกแต่งด้วยไม้แกะสลักทาสีขาว ภายในตั้งโต๊ะอาหารหลายชุด ให้เลือกนั่งแบบสบายไม่แน่นจนเกินไป ระหว่างรอให้มื้อเมื่อช่วงบ่ายย่อยก่อน ก็มาดูการสาธิตการทำเมนูเด็ดของร้าน 2 เมนูครับ
เมนูแรก กระวานผัดฉ่าไก่ วัตถุดิบก็มี ไก่หั่น กระเทียมแว่น กระวานซอย ตระไคร้ซอย พริกตำ ใบมะกูดซอย ใบกระวาน น้ำสต๊อก น้ำปลา น้ำมันวิธีทำ ตั้งกระทะน้ำให้ร้อน ใส่พริกตำกับไก่หั่นลงไป ผัดให้เนื้อพอเด้ง เติมน้ำสต๊อกลงไป ใส่กระเทียม กระวาน ตระไคร้ ใบมะกูด ผัดให้เข้ากัน
แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างเดียว ผัดให้ไก่สุกแล้วปิดไฟ จากนั้นใส่ใบกระวานลงไปผัดให้ใบกระวานเปลี่ยนสี แล้วค่อยตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ ต้นและใบกระวาน ให้รสร้อนแรง ลดไขมัน เลือดไหลเวียนดี
เมนูที่ 2 แกงหมูชะม่วง วัตถุดิบ เนื้อหมู ใบชะมวงต้ม พริกแกง นำ้มะขาม น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว เกลือ น้ำปลา น้ำสต๊อก วิธีการทำ ตั้งกระทะพัดพริกแกงให้หอมก่อน ใส่เนื้อหมู น้ำสต๊อกลงไป รอให้เดือด แล้วใส่ใบชะมวงต้มลงไป ปรุงรสด้วย นำ้มะขาม น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว เกลือ น้ำปลา
ผัดให้จนหมูเปื่อย เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ พริกแกงสูตรของทางร้าน ทำให้น้ำแกงหมูชะมวงเข้มข้น เปรี้ยวด้วยน้ำมะขาม ใบชะม่วง และหอมกลิ่นใบชะม่วง เพิ่มความหวานด้วยตาล 3 ชนิด อร่อยมากครับ
ร้านยังเมนูความอร่อยอีกเยอะ เส้นจันท์ผัดปู น้ำพริกกุ้งสด จ้อปู คั่วกลิ้งหมู ถั่วผัดกะปิ สะลอมาจู (ต้มซุปมะขือเทศปลากระพง) ตักข้าวน้อยๆทานอาหารให้ครบทั้ง 8 เมนู เยอะๆครับ เพราะอาหารของเขาอร่อยทุกอย่างเลย มาเที่ยวเมืองจันท์ที่ขาดไม่เลยก็คือ ต้องพยามมาทาน แกงหมูชะมวง ให้ได้ครับ ทานที่ไหนก็อร่อยสู้ที่ ร้านจันทรโภชนา (สาขามหาราช) ไม่ได้ครับ Delicious Destination @ Chanthaburi ยังไม่จบติดตามได้ใน EP. ต่อไป เมืองจันท์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีดีกว่าผลไม้ น่าเที่ยวสุดๆ