ท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ ชุมชนปากน้ำประแสร์ ชุมชนบ้านจำรุง ชุมชนเขาน้อย 4 ชุมชน @ จังหวัดระยอง
เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา
นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเมืองระยอง น่าจะก่อตั้งเมืองขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1500 ซากศิลาแลงคูค่าย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม เริ่มปรากฎชื่อในพงศาวดารเมื่อปี พ.ศ.2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา ระยองมีชนพื้นเมืองคือชาวซอง ซึ่งเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่กระจายโดยทั่วไปในภาคตะวันออก คำว่าระยองเพี้ยนมาจาก “ราย็อง” เป็นภาษาชองอาจมีความหมายสองอย่าง คือเขตถนน และ ไม้ประดู่
ระยองเป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในประเทศ และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดอยู่ในอันดับ 2 ของไทย ทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทั้งด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมจึงการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ ชุมชนปากน้ำประแสร์ ชุมชนบ้านจำรุง ชุมชนเขาน้อย 4 ชุมชน @ จังหวัดระยองด้วย
นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดระยอง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กล่าวว่า “ในฐานะของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดระยอง ที่มีหน้าที่สนับสนุน และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆให้กับชุมชน ทริปท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ ชุมชนปากน้ำประแสร์ ชุมชนบ้านจำรุง ชุมชนเขาน้อย 4 ชุมชน @ จังหวัดระยอง เราจึงให้ความสำคัญของทริปอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนในชุมชนเข้มแข็ง สามัคคี เสียสละ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำท่องเที่ยวโดยชุมชน ให้ชุมชนรักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้สวยงาม ผลิตสินค้าทางด้านการท่องเที่ยวให้พร้อมบริการ เราจะได้ช่วยสร้างการรับรู้ได้ต่อไป
ยิงลูกยางนา ชมสาธิตเก็บหมาก ที่ชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ
มาถึงจุดนัดหมายกับชุมชนที่วัดเกาะ ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างเข้าไปอีกทีหนึ่ง ชุมชนแรกที่ของทริปนี้ลงพื้นที่ก็คือ ชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ ตำบลหนองตะพาน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง สามัคคี เสียสละ รักในงานบริการด้านท่องเที่ยว จึงรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มกันขึ้นมาเพื่อทำการท่องเที่ยวโดยชุมชน
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชนก็จะได้สัมผัสกับวิถีชุมชน การทำคันธนูที่ย่อส่วนลงมาให้เล็กลง นำไปยิ่งลูกไม้ยางนาเพิ่มจำนวนป่าไม้ในชุมชน นอกจากนี้ยังมีการทำของเล่นโบราณ เช่นใบพัดหมุน กระบอกไม้ไผ่ยิงลูกกระดาษ
ชมสาธิตการเก็บหมาก ซึ่งหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน เพราะคนเก็บจะต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษ ร่างกายแข็งแรง ไม่กลัวความสูง อุปกรณ์ในการเก็บก็มีแค่เชือกมัดเท้าสำหรับใช้ในการปีนต้นหมาก กับพร้าที่เอาไว้ตัดทลายหมาก
ปิดท้ายด้วยการทานข้าวกลางวันกับชุมชน เมนูแบบบ้านๆครับ ไข่พะโล้ ปลาสลิดทอด ผัดเผ็ดกล้วยดิบ เสิร์ฟแบบบุฟเฟ่ต์ตักได้แบบอิ่มไม่อั้น รสชาติอร่อยเหมือนได้ทานข้าวกับญาติพี่น้องที่บ้านนอก
ชมสวนหม้อข้าว หม้อแกงลิง สีสวยงามหลากพันธ์ุ
สวนหม้อข้าว หม้อแกงลิง Rayong Smile Plants ตั้งอยู่ที่ อำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง เกิดขึ้นจากความชอบส่วนตัวของคุณประกิต โพธิ์ศรี เจ้าของสวนฯ ที่มีความผูกพันธ์กับ หม้อข้าว หม้อแกงลิง มาตั้งแต่เด็ก จึงเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ และท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีการผสมสายพันธ์ุขึ้นใหม่ จากสายพันธ์ุที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งพันธุ์ไทย สายพันธุ์จากต่างประเทศ ผสมเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ มากกว่า 500 สายพันธ์ุ
ภายในสวนร่มรื่นเป็นอย่างมาก ด้านหน้าสวนยกร่องปลูกต้นมะพร้าว มีหม้อข้าวหม้อแกงลิงขึ้นตามธรรมชาติอยู่เป็นหย่อมๆ ด้านหลังสวนเต็มไปด้วยเรือนเพาะชำเป็นจำนวนมาก กลางสวนเปิดเป็นร้านขายกาแฟสด และอาหารที่ทำจาก หม้อข้าว หม้อแกงลิง นักท่องเที่ยวได้อิ่มอร่อยหลากหลายเมนู สามารถเข้ามาเยี่ยมชม เลือกซื้อ หม้อข้าว หม้อแกงลิง พันธุ์แปลกใหม่ สีสวยงาม ได้ที่ Rayong Smile Plants ได้ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.00 น.
นั่งเรือชม หม้อข้าว หม้อแกงลิง ที่สวนพฤษศาสตร์ระยอง
มาถึงชุมชนที่ 2 คือชุมชนบ้านจำรุง นั่งเรือชม หม้อข้าว หม้อแกงลิง ที่สวนพฤษศาสตร์ระยอง สวนพฤษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ที่ หนองจำรุง ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,800 ไร่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ แหล่งเรียนรู้ทางศึกษาธรรมชาติ ศูนย์อนุรักษ์รวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก
มีเรือให้บริการพานักท่องเที่ยว ล่องชมความอุดมสมบรูณ์พรรณไม้หายากใกล้สูญพันธ์กว่า 400 ชนิด ในพืชที่ชุมน้ำของภาคตะวันออก เช่นป่าดิบแล้ง กกกระจูด ต้นเสม็ดขาว เสม็ดแดง นกน้ำหลายชนิด และยังเป็นที่อยู่ตามธรรมชาติของต้นหม้อข้าว หม้อแกงลิง ที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตพื้นที่ชุมน้ำ
นอนโฮมสเตย์ ณ บ้านจำรุง
โฮมสเตย์ (Home stay) หมายถึง การท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจะต้องพักรวมกับเจ้าของบ้านชายคาเดียวกัน โดยมีห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเหลือสามารถนำมาดัดแปลงให้นักท่องเที่ยวได้พักชั่วคราว ซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 4 ห้อง มีผู้พักรวมกันไม่เกิน 20 คนโดยมีค่าตอบแทน และจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร อันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม ซึ่งเป็นไปตามบทนิยามคำว่า “โรงแรม” แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว ตามหลักเกณฑ์ที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด
มาทริปท่องเที่ยวโดยชุมชนก็ต้องนอนที่ โฮมสเตย์ ที่บ้านจำรุง ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านจำรุง ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีโฮมสเตย์ที่ได้มาตราฐาน “โฮมสเตย์ไทย” ของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ห้องกว้าง ที่นอนนุ่มสะอาด ติดแอร์ทุกห้อง พร้อมห้องน้ำคู่ เพิ่มความสะดวกสบายในชั่วโมงเร่งด่วน และสำคัญราคาย่อมเยาว์แบบชุมชน แถมยังมีอาหารเช้าให้ทานอีกด้วย
วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม วัดเก่าสมัยอยุธยา
วัดราชบัลลังก์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เดิมชื่อว่า “วัดเนินสระ” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดทะเลน้อย” ตามชื่อหมู่บ้าน เพราะบริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน เป็นวัดเก่าสร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด คาดว่าคงสร้างราวปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ประวัติศาสตร์ชาติไทยกล่าวไว้ว่า ตอนกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าล้อมและเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 นั้น พระเจ้าตากสิน เมื่อครั้งยังเป็นพระยาวชิรปราการ ได้นำกำลังพลประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกไปทางทิศตะวันออก ผ่านเมืองนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยองและเมืองแกลง ไปสะสมเสบียงอาหารและรวบรวมกำลังพลที่เมืองจันทบุรี เพื่อกอบกู้อิสรภาพกลับคือจากพม่า ในช่วงที่ผ่านเมืองแกลงนั้น ได้หยุดพักพลที่บริเวณ วัดเนินสระ แห่งนี้
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้กอบกู้เอกราชและขึ้นครองราชย์แล้ว ได้ให้ “เจ้าอยู่” นำ ”บัลลังก์” ที่ประทับของพระองค์มาถวายที่วัดนี้ พร้อมด้วยตู้ลายทอง 1 ตู้ และพระพุทธรูปซึ่งสร้างด้วยโครงหวาย ฉาบปูนปิดทอง 1 องค์ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ สำหรับบัลลังก์ที่ประทับนั้น เมื่อ พ.ศ. 2460 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 4 ได้พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม” เพื่อเชิดชูเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมาหาราช ที่เคยเสด็จมาพักพลที่วัดนี้
กราบพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดถ้ำวัฒนมงคล
วัดถ้ำวัฒนมงคล หรือวัดถ้ำเจ้าคุณ ตั้งอยู่ ต.เขาน้อย อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณ พ.ศ.2539 ในที่ดิน 500 ไร่ ที่ดินบริเวณนี้เดิมนั้นชื่อเขากำแพง ต่อมาพระอุดมวัฒนมงคล หรือเจ้าคุณอุดม จากวัดอาวุธวิกสิตตาราม เขตบางพลัด ธนบุรี ได้จัดตั้งเป็นวัดขึ้น นำศรัทธาญาติโยมสร้างวัด จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 20 ปี
ท่านได้สำรวจสถานที่บนเขากำแพง มีถ้ำขนาดใหญ่ขนาดเล็ก จำนวน 30 ถ้ำ แม้จะรกร้าง แต่ก็มีธรรมชาติที่สวยงาม พัฒนาเน้นความกลมกลืนธรรมชาติเป็นหลัก ทำให้วัดถ้ำวัฒนมงคล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบร่มเย็น พร้อมกับปลูกต้นไม้ บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง
ตัววัดมีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำทาสีขาวตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านหน้าเป็นอาคารหลังคาทรงจั่วซ้อนกัน 3 ชั้น ล้อมรอบด้วยตัวอาคาร 2 ชั้นโดยรอบ ภายในมุขทรงจั่วประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำอยู่หลายองค์ ตรงกลางองค์เจดีย์มีลูกแก้วสารพัดนึกตั้งอยู่ ชั้น 2 ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวและคนในชุมชนได้มากราบบูชา นอกนี้ภายในอาคารยังเก็บสะสมวัตถุโบราณไว้เป็นจำนวนมาก
เที่ยวชุมชนเขาน้อย นั่งเรือลอดถ้ำ ชมหินงอกหินย้อย ที่วัดถ้ำเขาประทุน
วัดถ้ำเขาประทุน ตั้งอยู่ที่ ตำบลเขาน้อย อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ด้านหน้ามีพระพทุธรูปปูนองค์ปั้นปางป่าเลไลย์ ให้นักท่องเที่ยวได้กราบบูชาก่อนเข้าถ้ำ ยังเป็นถ้ำที่มีชีวิตน้ำจากยอดเขา สามารถไหลผ่านลงมาได้ถึงภายในถ้ำ ทำให้หินงอกหินย้อยยังเติบโตได้
การเข้าชมถ้ำหน้าฝนน้ำภายในถ้ำจะมาก ต้องนั่งเรือลอดถ้ำเข้าไป เพื่อชมความสวยงามของหินงอกหินย้อย ส่วนหน้าแล้งน้ำจะแห้งสามารถเดินลอดถ้ำเข้าไปได้เลย เมื่อนั่งเรือลอดท้องถ้ำเข้าไปแล้ว ก็จะเจอปล่องถ้ำขนาดใหญ่ แมกไม้เล็กใหญ่ขึ้นปกคลุมให้ความร่มรื่นอยู่เติบเต็มพื้นที่
ด้านซ้ายของปล่องถ้ำยังถ้ำเล็กถ้ำน้อย ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าดูความงดงามกลุ่มหินงอกหินย้อย ที่กระจัดกระจายอยู่เต็มถ้ำ ส่วนไฮไลท์ของถ้ำแห่งนี้น่าจะเป็น จุดเช็คอินถ่ายรูปกับนกยักษ์ที่กำลังบินลงมาจิกผู้มาเยือน
สถานที่เพาะพันธุ์ แคคตัส “เพชรแต้มสี” “เพชรแต้มสี”
สถานที่เพาะพันธุ์ แคคตัส “เพชรแต้มสี” ตั้งอยู่ที่ ถนนหาดแม่รำพึง ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีแคคตัสจำนวนมาก และหลากหลายให้เลือกชม เมื่อคุณมาเยี่ยมสถานเพาะพันธุ์แคคตัสของเรา คุณสามารถเลือกชมและเลือกซื้อกลับไปได้ตามอัธยาศัย เราเปิดให้บริการในวันเสาร์ เวลา 10.00 น. ถึง 15.00 น. สำหรับลูกค้าที่นัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น หากท่านต้องการเยี่ยมชม กรุณานัดหมายล่วงหน้า 3 วัน เพื่อให้เราสามารถเตรียมอำนวยความสะดวกให้กับท่านต่อไป
ในฐานะที่คุณเป็นลูกค้า VIP ของ “เพชรแต้มสี” คุณได้รับเชิญเข้าเยี่ยมชมสถานเพาะพันธุ์แคคตัส และชมความงดงามของหลากหลายสายพันธุ์แคคตัสได้อย่างเต็มที่เรามีบริการการเดินทางโดยรถส่วนตัวพร้อมพนักงานขับรถ ทั้งขาไป-ขากลับ จากสนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิมายัง “ฟาร์มเพชรแต้มสี” ซึ่งมีค่าบริการการเดินทาง 3,000 บาท แต่สำหรับลูกค้า VIP ที่มียอดสั่งซื้อสินค้ามากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป จะไม่มีค่าบริการการเดินทาง แต่อย่างใด “เพชรแต้มสี” จำหน่ายต้นแคคตัสที่หลากหลายสายพันธุ์เป็นหลัก ไม่ได้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์แคคตัส หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเราผ่านทางอีเมล์หรือโทรศัพท์ ได้ตลอดเวลา ติดต่อ: +66 61 8787 922 อีเมล์: petchtamseecactus@gmail.com
อนุสรณ์เรือหลวงประแสร์ ความภาคภูมิใจของชาวปากน้ำประแสร์
อนุสรณ์เรือหลวงประแสร์ ตั้งอยู่บริเวณหัวโขด ชายหาดประแส ตำบลปากน้ำกระแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เดิมชื่อ GALLUP (PF 7) ของ สหรัฐราชนาวี ได้มอบให้กับรัฐบาลไทย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปลดประจำการแล้ว นำมาตกแต่งสถานที่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2546
ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวปากน้ำประแส ด้วยการไปขอเรือรบหลวงประแสร์มาจากกองทัพเรือ เพื่อจัดตั้งเป็น อนุสรณ์เรือหลวงประแสร์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดระยอง สามารถขึ้นไปเยี่ยมชมบนเรือ ได้อย่างใกล้ชิดทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็น ห้องบังคับการเรือ ปืนใหญ่ ปืนกล ก็จินตนาการทดลองยิงได้ เรือชูชีพก็ยังมีอยู่ครบ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ศาลเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ ผู้เป็นบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลปากน้ำกระแส สร้างเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2512 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงประกอบพิธีประดิษฐานกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ ศาลาตำบลปากน้ำกระแส
ภายในศาล ประดิษฐานรูปหล่อพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรฯ ขนาดเท่าองค์จริง ด้านหน้าศาล มีปืนกลที่ปลดประจำการวางไว้เพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์ท่าน อยู่ทั้งสองข้าง มีพื้นที่เฉพาะสำหรับจุดประทัด เพื่อเป็นการสักการะท่าน เพราะท่านเป็นคนที่ชอบประทัดมาก บริเวณริมน้ำมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน นั่งชมวิวแม่น้ำประแส มีการจัดงาน มหรสพสมโภชน์ระหว่างวันที่ 10 – 20 ธันวาคม ของทุกปี
ชมตะเคียนคู่ ณ วัดตะเคียนงาม
ต้นตะเคียนคู่ ตั้งอยู่ในวัดตะเคียนงาม ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในอดีตเป็นป่ารกชัฎมีดงตะเคียนขึ้นหนาแน่น มีต้นตะเคียนอยู่ 2 ต้น ที่เป็นต้นแม่ และต้นพ่อ เจริญเติบโตได้ดีลำต้นสูงชะลูดทั้ง 2 ต้น ทำให้ชาวประมงใช้เป็นจุดบอกพิกัดเวลาเอาเรือเข้าฝัง ต่อมาชาวบ้านจึงมาช่วยกันสร้างวัดขึ้น ให้ชื่อว่า วัดตะเคียนงาม
ในปัจจุบันตะเคียนคู่นี้มีอายุยืนยาวมากว่า 500 ปี ชาวบ้านจึงเรียกเป็น ต้นเจ้าแม่ กับ ต้นเจ้าพ่อ ชาวบ้านมักมากราบไหว้ ขอโชคลาภบนบานศาลกล่าว ต้นเจ้าแม่มากกว่าต้นอื่นๆ โดยเฉพาะ กิ่งที่หักจากต้นแม่ก็ได้รับแรงศรัทธาไม่น้อย จึงได้สร้างศาลาคลุมไว้ ช่วงใกล้วันหวยออกผู้คนจะมาจุดธูปบนบาน และขัดผิวขอโชคขอลาภอย่างเนืองแน่น
ล่องเรือชมความอุดมของป่าชายเลน ปากคลองแสมผู้
หลังจากที่ไปขอเลขเด็ดที่วัดตะเคียนงามแล้ว ก็ลงลงเรือเพื่อไปชมความอุดมสมบรูณ์ ของป่าโกงกางที่ปากคลองแสมผู้ เรือแล่นหน้าทุ่งโปรงทองไปตามคลองแสมผู้ ใข้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงปากคลองแสมผู้ที่เชื่อมต่อกับทะเล
ระหว่างทางที่ล่องเรือผ่าน มีพรรณไม้ที่ขึ้นภายในป่าโกงกางริม 2 ฝั่งคลอง หนาแน่นมาก ไม่ว่าจะเป็น ต้นโกงกาง ต้นตะบูน ต้นลำภู ต้นแสม และอื่นๆอีกมากมาย นกน้ำ เหยี่ยวแดงก็มีให้เห็นอยู่ปะปาย
ทุ่งโปรงทอง ใบเหลืองสลับเขียวเต็มท้องทุ่ง
เรือมาจอดที่หน้าศาลเจ้าแสมผู้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมความสวยงามของทุ่งโปรงทอง เดินไปตามทางสะพานไม้ ที่สร้างขึ้นไม่ให้มีผลกระทบ ทำให้ต้องตัดต้นไม้เลยสักต้นเดียว สะพานไม้ลัดเลาะไปตามช่องว่างของป่าโกงกาง เดินมาประมาณ 800 เมตร ก็โผล่ออกมาเห็นทุ่งโปรงทอง ใบเหลืองสลับเขียว เต็มท้องทุ่งมองเห็นได้ 360 องศา อย่างเต็มตา
ทุ่งโปรงทอง อยู่ในกลุ่มป่าชายเลน เป็นกลุ่มของสังคมพืช ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ทั้งนี้เพราะอิทธิพลจากลักษณะของดิน ความเค็มของน้ำทะเลและการขึ้นลงของน้ำทะเล ป่าชายเลนจึงมีแนวเขตการขึ้น อยู่ของพันธุ์ไม้ชายเลนที่เด่นชัดและแตกต่างกัน
โกงกางใบเล็ก และโกงกางใบใหญ่ จะขึ้นอยู่หนาแน่นบนพื้นที่ใกล้ฝั่งทะเล ไม้แสมและประสัก จะอยู่ถัดจากแนวเขตของโกงกาง ไม้ตะบูน จะอยู่ลึกเข้าไปจากแนวเขตของไม้แสมและประสัก เป็นพื้นที่ที่มีดินเลน แต่มักจะแข็ง ส่วนบนพื้นที่ดินเลนที่ไม่แข็งมากนักและมีน้ำทะเลท่วมถึงเสมอ จะมีไม้โปรง โปรงขาว โปรงแดง และโปรงทอง ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น
กราบขอพรพระนอนตะแคงซ้าย วัดป่าประดู่
วัดป่าประดู่ อยู่ในเขตเทศบาลนครระยอง ข้างโรงพยาบาลระยอง ถนนสุขุมวิท เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ วิหารพระปาลิไลยก์ พระปางปาลิไลยก์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่คู่กับวัดนี้เช่นเดียวกับพระพุทธไสยาสน์ องค์พระสูง 6.02 เมตร ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2501
พระพุทธไสย์ยาสน์ เป็นพระพุทธไสยาสน์ซึ่งประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย องค์พระทำด้วยอิฐถือปูน เดิมอยู่กลางแจ้ง ต่อมาสร้างวิหารครอบเมื่อปี พ.ศ. 2524 มีความยาว 11.95 เมตร โบสถ์หลังเก่า พระครูสมุทสมานคุณและชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2449 การก่อสร้างใช้รูปแบบขอ สถาปัตยกรรมในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีหลังคาซ้อนกันสองชั้นประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานศิลปกรรมแบบจีน โดยเฉพาะลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันของโบสถ์
ถนนยมจินดา แหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม
เป็นถนนเก่าแก่ของเมืองระยอง ที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆ ของถนนยมจินดา ที่เคยเป็นถนนสายหลักใจกลางเมืองระยองในอดีต แต่ก่อน เมืองระยองใช้แม่น้ำระยองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง เป็นลำน้ำสายหลักในการติดต่อค้าขายและทำธุรกิจการค้า มีกิจการอู่ต่อเรือ ใช้การคมนาคม ทางน้ำขนส่งสินค้าขึ้นล่องไปยังหัวเมืองต่างๆ
จนกระทั่งสมัย พระศรีสมุทรโภค (อิ่ม ยมจินดา) เจ้าเมืองคนสุดท้ายของเมืองระยอง ได้เริ่มสร้างถนนแห่งแรกขึ้น ให้ขนานไปกับแม่น้ำ ชื่อว่า ถนนยมจินดา ซึ่งกลายเป็นถนนที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมืองระยอง เป็นถนนที่เคยคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน ทำธุรกิจการค้า เป็นที่ตั้งของธนาคาร โรงหนัง ตลาด รวมถึงเป็นที่ตั้งของบ้านต้นตระกูลยมจินดา จนกระทั่งบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป เมืองโดยรอบขยายตัวขึ้น มีถนนตัดผ่านมากขึ้น บ้านเรือนถูกเปลี่ยนสภาพเป็นตึกและอาคารสูงรูปทรงทันสมัย เหลือเพียงบ้านเรือนบนถนนยมจินดา ที่ยังคงสภาพบ้านเรือนตามรูปแบบวิถีชีวิตไทยเดิมๆ
ปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือของชมรมอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง และเทศบาลเมืองระยอง ถนนยมจินดาได้ถูกปัดฝุ่น ให้บรรยากาศแบบเดิมๆ ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นบ้านเรือนในแบบโบราณ และชุมชนในภาพบรรยากาศเก่าๆ ชมบ้านเรือนในแบบอายุเกือบร้อยปี สิ่งของเครื่องใช้ในอดีต รวมถึงการเล่าเรื่องราวผ่านรูป และแฟ้มภาพเก่าๆ
วิกเถ้าแก่เทียน โรงหนังโบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2460 โดยนายเทียน สินธุวณิชย์ หรือขุนพานิชชลาสินธุ์ เป็นชาวจีนไหหลำ ทำการเดินเรือขนส่งสินค้าระหว่างเกาะกง ประเทศกัมพูชา ผ่านระยอง ไปกรุงเทพ และเปิดร้านบนถนนยมจินดาชื่อ “เซ่งฮั่วเฮง” ตึกของเถ้าแก่เทียนมีลักษณะการสร้างสไตล์ *ชิโน-โปตุกีส ที่ได้อิทธิพลการสร้างมาจากจังหัวดบ้านเกิดคือภูเก็ต สังเกตได้จากหน้าจั่วที่มีลายปูนปั้นประดับอยู่
จิบกาแฟยามบ่าย ร้านราย็อง
ร้านราย็อง ตั้งอยู่ที่ ถนนยมจินดา ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง ระยอง เป็นร้านเก่าแก่ขายโรตีตั้งยังเป็นรถเข็น จึงมาถึงปัจจุบันมี 2 ร้าน อยู่ติดถนนยมจินดา 1 ร้าน และเข้ามาในซอยอีก 1 ร้าน เมนูก็มีหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
เริ่มตั้งแต่หน้าร้านขายบัวลอยไข่หวาน ทำกันสดๆให้วิธีการปั้นลูกบัวลอยกันเลยทีเดียว กาแฟก็มีให้เลือกหลายเมนู กาแฟร้อน กาแฟเย็น ชาเย็น โกโก้ น้ำมะม่วงปั่น น้ำอันชันมะนาว ส่วนของหวานก็มีขนมปัง นม เนย ขนมปังโทส มินิปิซ่า ลาวาภูเขาไฟ แล้วก็มาถึงเมนูเด่นดั่งเดิมของร้านก็คือโรตรี นม เนย โรตรีมะตะบะ สั่งได้เลยอร่อยทุกเมนูและราคาน่ารักอีกด้วย เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
ขึ้นหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ชมปากแม่น้ำระยอง
หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง บ้านปากน้ำ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เกิดจากความร่วมมือของเทศบาลระยอง กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำระยองและป่าชายเลน และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว เนื่องวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
มีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าชายเลน และได้เห็นวิถีชีวิตของการอยู่ร่วมกันของระบบนิเวศของป่าชายเลนที่ กำลังจะหมดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังถือเป็นสถานที่พักผ่อน และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพัฒนาการไปสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดระยองอีกด้วยหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ
ทางเดินไปยังหอชมวิว เป็นทางเดินไม้ระแนงกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกเข้าไปประมาณ 400 เมตร ทางเดินไม้ไม่มีขอบกั้น สูงจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร สองข้างทางมีต้นไม้นานาพรรณ บางต้นมีขนาดใหญ่ อายุหลายร้อยปี มีกิ่งก้านแผ่ขยายออกไปกว้าง ไม้ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้สกุลโกงกาง แสมขาว แสมดำ โปรงขาว ประสักดอกแดง โพทะเล ปรงทะเล ตะบูนขาว ตะบูนดำ เป็นต้น มี “บ้านหอยพอก” เป็นการสร้างคอกไม้ไผ่ล้อมไว้บนพื้น เพื่อให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์หอยพอก มี”คอนโดปู” ที่เกิดจากความคิดของกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำและป่าชายเลน โดยนำไม้แสม โกงกาง และเศษไม้มาปักทับถม ให้เหมือนกับเป็นที่พักอาศัยและขยายพันธุ์ทางธรรมชาติของสัตว์น้ำเช่น ปูแสม ปูหนุมาณ ปูทะเล(ปูดำ) ปูกระเทย และปลาชนิดต่างๆ เพื่อให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์
เจดีย์กลางน้ำ
ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ 2 กิโลเมตร ใกล้ปากแม่น้ำระยอง องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2416 โดยพระยาศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เจ้าเมืองระยองคนแรกเป็นผู้สร้าง เจดีย์กลางน้ำ เป็นเจดีย์ก่ออิฐฉาบปูน ทรงระฆัง สูงประมาณ 10 เมตร นี้ใช้เป็นสัญลักษณ์ของชาวเรือว่าได้เดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว ใกล้ ๆ กันยังเป็นป่าชายเลนที่มีต้นโกงกางหนาแน่น มีสะพานไม้คดเยวเข้าไปด้านใน ปลายสุดของศาลาเป็นจุดชมวิวที่ให้นั้งชมบรรยากาศของปากน้ำระยอง พอถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปีจะมีงานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาว และงานลอยกระทง
ปิดท้ายทริป 2 วัน 3 คืน ท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านไผ่แต่วัดเกาะ ชุมชนปากน้ำประแสร์ ชุมชนบ้านจำรุง ชุมชนเขาน้อย 4 ชุมชน @ จังหวัดระยอง ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง เพื่อส่งเสริมการตลาด และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดระยอง มีกิจกรรส่งเสริมหลักเพื่อส่งการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ปี 2561 และกิจกรรมย่อยเพื่อจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงรุกเชื่อมโยงภูมิภาค ครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 ตุลาคม 2561 ณ จังหวัดระยอง