“นั่งรถไฟ KIHA 183 พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ”#2
เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับ กองการตลาดภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดชัยภูมิ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และสำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม (สทส.) จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ KIHA 183 พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ” กราบสักการะอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล ชมความงามทุ่งดอกกระเจียว ท้าทายความเสียว ผาสุดแผ่นดิน ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชมความมหัศจรรย์ มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย สัมผัสสายหมอกผาหัวนาค ที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา นอนดูดาวที่วัด ถวายภัตตาหารเพล กราบขอพรพระธาตุชัยภูมิ ที่พุทธอุทยานธรรมสถาน จังหวัดชัยภูมิ
คุณศุภมาศ ปลื้มสกุล หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย นางณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ นายวรวุฒิ วรแสง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) นายยชญ์ธเนศ วศินชัยปภัสร์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ และ เจ้าหน้าที่กองการตลาดภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยว “นั่งรถไฟ KIHA 183 พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ”#2
คุณศุภมาศ ปลื้มสกุล หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “รถไฟ KIHA 183 เราได้บริจากมาจาก JR Hokkaido ประเทศญี่ปุ่น นำมาซ่อมบำรุงปรับปรุงใหม่หมดทั้งภายนอกภายใน แล้วมาทำเป็นรถไฟนำเที่ยวขบวนพิเศษ แต่เรายังคงกลิ่นอายความ และบริการเป็นแบบญี่ปุ่นไว้ให้มากที่สุด”
โครงการท่องเที่ยวด้วย รถไฟขบวนพิเศษ KIHA 183 นี้เป็นดำริของท่าน นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องการให้เกิดการบรูณาการความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และท่องเที่ยวโดยชุมชนต่างๆ อยากเห็นการท่องเที่ยวลงสู่ชุมชน เพื่อเป็นการกระจายรายลงสู่ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
ในทริปนี้เราก็มากันที่ชัยภูมิใน Theme พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ ชมทุ่งดอกกระเจียว มอหินขาว ท่ามกลางสายหมอกยามเช้า มานอนดูดาว และฝนดาวตก Perseids ที่โครจรผ่านโลกเราในช่วงนี้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ปิดการจองทริปภายในเวลาครึ่งชั่วโมง จนต้องเปิดรอบสองแต่ก็ยังเต็มเร็วอยู่ดี ก็ต้องขออภัยกับคนที่จองไม่ได้เพราะที่นั่งเรามีจำกัดทริปละ 200 ที่นั่งเท่านั้น แต่เราก็ยังมีทริปอื่นออกมาเรื่อยๆทุกสัปดาห์
เราได้รับการต้อนรับจากทางจังหวัดชัยภูมิเป็นอย่างดี ท่านผู้ว่าฯส่งรองผู้ว่ามาต้อนรับคณะท่องเที่ยวด้วย กองการตลาดภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็มาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟวะตะแบก ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดชัยภูมิ และเทศบาลเมืองชัยภูมิ ก็มากล่าวต้อนรับในงานเลี้ยงตอนเย็น คนในพื้นที่ก็ตื่นเต้นอยากให้ทางการรถไฟฯ จัดทริปกลับมาที่ชัยภูมิอีก เพราะชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ประเพณีวัฒธรรมหลากหลาย ธรรมชาติสวยงาม
ทริปนี้ท่านใดที่พลาด แต่เราก็ยังมีทริปอื่นออกมาเรื่อยๆทุกสัปดาห์ มีทั้ง One day trip และ 2 วัน 1 คืน ให้เลือกในเดือนกันยายน เป็น Theme แบ่งปันรอยยิ้มให้น้อง ซึ่งเปิดให้จองแล้ว และในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตุลาคมถึงธันวาคม เราอาจนำ Theme นั่งรถไฟชมทุ่งทานตะวัน กลับมาอีกครั้ง ก็อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวจองทริปมาเที่ยวกันเยอะๆ และติดตามข่าวทริปต่างๆได้ทาง เพจ Feacbook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย”
สถานีวะตะแบก จังหวัดชัยภูมิ
ทริปนี้นักท่องเที่ยวมาลงทะเบียนบริเวรชานชลาที่ 4 สถานีรถไฟกรุงเทพ กันแต่เช้า รับป้ายคล้องคอ ทานเครื่องดื่มร้อน ถ่ายรูปเช็คอินกับขบวนรถไฟเป็นเรียบร้อย รถไฟ KIHA 183 ออกเดินทางจากหัวลำโพงตั้งแต่เวลา 6.00 น. บนรถไฟเสิร์ฟอาหารเช้า พร้อมอาหารว่าง ให้นักท่องเที่ยวอิ่มท้องไปตลอดทาง ถึงสถานีวะตะแบก จังหวัดชัยภูมิ เวลา 10.45 น. นักท่องเที่ยวลงจากรถไฟเพื่อมาขึ้นรถบัสเพื่อไปทานอาหารกลางวันมื้อแรกของทริปนี้
มื้อกลางวัน 1 ครัววังตะแบกกู๊ดวิว
รถบัสจอดแวะให้นักท่องเที่ยวเข้าห้องที่ปั๊ม แล้วเดินทางต่อมาที่ ร้านอาหารครัววังตะแบกกู๊ดวิว บรรยากาศร้านดีด้านหน้าติดถนน ด้านหลังเป็นไร่ข้าวโพด เห็นกังหันลมอยู่ใกล้ๆ ร้านใหญ่รองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้ง 200 คน ในทริปนี้ ทีม Steff แบ่งกลุ่มนั่งโต๊ะ 8 คน พร้อมบอกเลขโต๊ะให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่บนรถบัสแล้ว นักท่องเที่ยวลงมาจากรถบัสเดินตรงที่โต๊ะของแต่ละคนได้เลย เมนูวันนี้ ออร์เดิร์ฟเป็นปีกไก่ทอดน้ำปลา หมูแดดเดียว และลาบไก่ ตามมาด้วยเมนคอร์ส ผัดผักรวมกุ้ง ฉู่ฉี่ปลาดนิลทอด ต้มยำปลาคัง และปลานิลเผาสมุนไพร ทำใหม่สดเสิร์ฟร้อน อร่อยทุกเมนู
ชมความงามทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยเดินทางต่อไป ชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว ถ่ายรูปหมู่กันที่ป้าย อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หน้าทางเข้าอุทยานฯ แล้วขึ้นรถรางไปชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว ที่จะบานตามธรรมชาติทั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่ท่านกำลังจะลงไปชมต่อจากนี้ ดอกกระเจียวจะบานในช่วงหน้าฝน ตั้งเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม
ทางอุทยานจะมีรถรางบริการวิ่งรับส่งตามจุดท่องเที่ยว 4 จุด หน้าอุทยาน ทางเข้าทุ่งดอกกระเจียว, ลานหินงาม, และผาสุดแผ่นดิน เพื่อนำนักท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆได้ รถรางจะไปส่งยังจุดรับส่งของแต่จะจุดท่องเที่ยว เที่ยวเสร็จก็กลับมาขึ้นรถแล้วก็ไปต่อยังจุดต่อไป ที่นี้ยังมีลานหินงานให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชมอีกจุดด้วย อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานฯ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกลุ่มหิน เป็นรูปต่างๆตามจินตนาการ อย่างน่าอัศจรรย์ ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะเนื้อหิน ตามธรรมชาติ ที่เด่นๆมีอยู่ 5 กลุ่มหิน หินเรด้า, หินแม่ไก่, หินปราสาท, หินถ้วยบอลโลก และไฮไลท์เป็น หินมอหำตั้ง มาแล้วต้องมาถ่ายรูปกันทุกคน
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ยังมีผาสุดแผ่นดินจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย จุดชมวิวบรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย เพราะช่องลมมีลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้งวัน เป็นเขตรอยต่อระหว่างภาคกลางจังหวัดลพบุรี ภาคอีสานจังหวัดนครราชสีมา สามารถมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหย และผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชัยภูมิกันเยอะๆ ทางจังหวัดฯยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน มาเที่ยวแล้วก็อยากให้กลับมาใหม่เพราะชัยภูมิเที่ยวได้ทั้งปี
เฮือนคำมุ พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ ชัยภูมิ
ก่อนไปรับประทานอาหารค่ำ แวะชม เฮือนคำมุ พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ ชัยภูมิ ก่อตั้งโดย อาจารย์คมกฤช ฤทธิ์ขจร ลูกหลาน เจ้าพ่อพญาแลโดยตรง เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องผ้าโบราณ ของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของประเทศไทย ภายในจัดแสดง ผ้าทอโบราณ ต้นแบบของผ้าทอไหมโบราณ ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และกี่ทอผ้า เครื่องมือทอผ้าโบราณ
งานเลี้ยงต้อนรับมื้อเย็น ศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ช่วงเย็นหลังจากไปกราบขอพร อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล ที่สี่แยกกลางเมืองชัยภูมิแล้วก็มาทานอาหารมื้อค่ำที่ ศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองชัยภูมิ โดยมี คุณศุภมาศ ปลื้มสกุล หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ นายวรวุฒิ วรแสง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย กล่าวต้อนรับนักท่องเที่ยว และชมการแสดงจากนักเรียนเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 3 โรงเรียน
การแสดงชุดที่ 1 แห่กระธูป ถวยสมมา จากโรงเรียนสง่าวิทยา
การแสดงชุดที่ 2 ฟังเพลงอีสาน วงโปงลางฟ้าอมร จากโรงเรียนเทศบาลเมืองชัยภูมิ 4 (อมร สะเพียรชัยอุทิศ)
การแสดงชุดที่ 3 ระบำอัปสรา วิทยานารี จากโรงเรียนเทศบาลเมืองชัยภูมิ 1 (วิทยานารี) หลังจบการแสดงทั้ง 3 ชุด นักท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศได้ร่วมกันมอบสินน้ำใจให้แก่นักเรียนทั้ง 3 โรงเรียนเป็นจำนวนเงิน 16,720 บาท และคณะโรงเรียนผู้สูงอายุธรรมมอบให้อีกโรงเรียนละ 1,200 บาท ด้วย
นอกจากนี้เราก็ยังนำสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาเปิดร้าน ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อของฝากกลับบ้านด้วย
นอนดูดาว ฝนดาวตก Perseids รับวันแม่
ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ (Perseids Meteor Shower) สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงระหว่างวันที่ 17 กรกฏาคม – 24 สิงหาคมของทุกปี มักมีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 12-13 สิงหาคม จึงได้รับสมญาว่าเป็น “ฝนดาวตกวันแม่” สำหรับปีนี้ ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ มีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 12 สิงหาคม ถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม คาดว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง มีศูนย์กลางการกระจายอยู่ในกลุ่มดาวเพอร์เซอุส บริเวณท้องฟ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทานอาหารเย็นเรียบร้อยก็ไป นอนดูดาว ฝนดาวตก Perseids ที่วัดศิลาอาสน์หรือวัดภูพระ โดยมีพี่ๆ ชมรมดาราศาตร์โรงเรียนประทาย โคราช มาเป็นวิทยากรบรรยาย แบ่งนักท่องเที่ยวออกเป็น 5 กลุ่ม เท่ากับจำนวนรถบัสที่พานักท่องเที่ยวมา และนำกล้องดูดาวขนาดใหญ่มาให้นักท่องเที่ยวส่ิงดูดาวกันทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน ก่อนฟังคำบรรยายพี่ๆสอนให้นักท่องเที่ยวเขียนดาวด้วยมือถือ เพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
และนักท่องเที่ยวต้องโหลดแอพดูดาวลงมือถือก่อน ตอนแรกก็นึกว่าจะง่วงกัน แต่ปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่อคิวรอส่องกล่องดูดาวกันเป็นแถวยาว บางก็เอามือถือที่โหลดแอพดูดาวไว้แล้ว เปิดแอพดูดาวขึ้นมาแล้วส่องขึ้นไปหากลุ่มดาวบนท้องฟ้า แอพก็จะบอกเลยว่าเป็นกลุ่มอะไร สนุกตื่นเต้นกัน 5 กลุ่มเลย แม้เวลาจะล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว
มอหินขาว หรือสโตนเฮนจ์เมืองไทย
เช้าวันใหม่หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว ก็เดินทางต่อมาที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ลงจากรถบัสมาถ่ายรูปหมู่กับ สโตนเฮนจ์เมืองไทย กันก่อน นักท่องเที่ยวต้องคนรถสองแถวที่ทางอุทยานจัดไว้ให้เพื่อขึ้นไปต่อไปยังผาหัวนาค
มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เป็นกลุ่มหินทรายสีขาว เกิดจากการสะสมของตะกอนทราย และดินเหนียวแข็งตัวกลายเป็นหิน เมื่อเปลือกโลกเคลื่อนไหว บีบอัด จนเกิดการคดโค้ง แตกหัก กัดเซาะ จากสายฝนกับสายลมตั้งเรียงตัวกันคล้ายกับ สโตนเฮนจ์ ของประเทศอังกฤษ ล่าสุดได้รับโหวตให้เป็น Unseen New Chapters แห่งใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ผาหัวนาค ผาเสียววิวสวย
ผาหัวนาค ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติภูแลนคา อยู่สูงจากมอหินขาวขึ้นไปหน่อย ที่ระดับความสูง 905 เมตร ในหน้าฝนจะมีดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง และตอนเช้าสายลมเย็นหอบเมฆหมอกมาฝากนักท่องเที่ยวด้วย สามารถมองเห็นวิวท้องทุ่ง เทือกเขาต่างๆ ได้ 180 องศา มีแผ่นหินยื่นตัวออกไปเป็นผาเสียววิวสวยให้นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปได้หลายจุด
ถวายสังฆทานแด่พระภิษุสงฆ์ วัดพระธาตุชัยภูมิ
หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อย รับศีลรับพร ปะพรมน้ำมนต์จากพระสงฆ์แล้ว ทางวัดได้จัดให้มีพิธี ถวายสังฆทานแด่พระภิษุสงฆ์สายป่า 12 รูป ที่นิมนต์มาจากทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศในทริปนี้ ร่วมกันบริจาคถวายแด่พระสงฆ์เป็นทั้งหมด 21,385 บาท” นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้รับกำไลข้อมือ โดยท่านเจ้าอาวาสสวมให้กับมือทุกคน แล้วกำลังจิตศรัทธาที่บริจากให้กับทางวัด
กราบพระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ
พระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือวัดอรุณธรรมสถาน ตั้งอยู่บนยอดเขาช่องลม บ้านภูสองชั้น อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดย พระธรรมสิริชัย เจ้าอาวาส วัดอรุณราชวราราม ได้เดินทางกลับมาสร้างองค์พระธาตุแห่งนี้ขึ้น บนพื้นที่กว่า60 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่เผยแผ่พุทธศาสนา
นักท่องเที่ยวทานข้าวเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปกราบ พระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ เพื่อความเป็นสิริมงคล ชั้นบนสุดมีเจดีย์ประธานองค์สีขาว ยอดเจดีย์สีเหลืองทอง ตั้งอยู่ตรงการ ใครจะซื้อดอกไม้ธูปเทียน หรือเดินเวียนเทียนบูชาพระธาตุ ก่อนเดินทางไปขึ้นรถไฟ KIHA 183 กับที่สถานีจัตุรัส ในเวลา 15.45
“นั่งรถไฟ KIHA 183 พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน @ ชัยภูมิ” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 – 13 สิงหาคม 2566 สามารถติดตามข่าวสาร จองทริปต่อไปของรถไฟ KIHA และสามารถโหลดรูปในทริปนี้ ได้ทางเพจ Feacbook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย