THEWAYNEWS > Travel > In bound > เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เชื่อมโยง 3 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ( EP กาญจนบุรี )

      เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เชื่อมโยง 3 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ( EP กาญจนบุรี )

        เรื่อง / ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา

      องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 จัดโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เชื่อมโยง 3 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพื่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ใหม่ๆ  เน้นให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ใหม่ มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน โดยเชื่อมโยง 3 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เข้าด้วยกันเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ และได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ ด้านการท่องเที่ยว อาจารย์มหาวิทยาลัย มัคคุเทศก์ สื่อมวลชน มาให้คำแนะนำติชม เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็น เส้นทางท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มีความสมบรูณ์ น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

           เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กาญจนบุรี

     จังหวัดกาญจนบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่วันนี้เราจะไปท่องเที่ยวโดยชุมชนกันครับ เพื่อเยี่ยมชม ทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองทราย อำเภอหนองสาหร่าย จังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา จึงตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหนองสาหร่ายขึ้นมา จัดตั้งศูนย์ศึกษาและเรียนรู้นวัตกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่ และเกษตรอินทรี ให้องค์ความรู้กับคนในชุมชน ดำเนินการทำนาแบบดั่งเดิม สืบทอดภูมิปัญญาการทำนา ปลูกข้าวปลอดสาร จัดตั้งโรงสีข้าวชุมชน ปลูกข้าวเอง สีข้าวเอง และจัดจำหน่ายเอง

         ตั้งกลุ่มอาชีพในด้านต่างๆ ที่คนในชุมชนถนัด เช่นกลุ่มทำนาแบบดั่งเดิม กลุ่มทำพริกแกง กลุ่มทอผ้าขาวม้า กลุ่มเลี้ยงไส้เดือน กลุ่มทำขนมนางเล็ด กลุ่มทำทองม้วนข้าวกล้อง กลุ่มทำนาหญ้าแพงโกล่า เป็นต้น และจัดตั้งชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองทรายขึ้นมาในที่สุด นำนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ให้ได้รับประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์ใหม่ๆ เป็นรายได้เสริมให้กับคนในชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย

            สาธิตเครื่องจักสานจากเส้นพลาสติก

       คณะของเราทานอาหารกลางวันที่ ชุมชนต้นแจงพัฒนา จังหวัดสุพรรณบุรี เสร็จแล้วก็เดินทางต่อมาที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองทราย อำเภอหนองสาหร่าย จังหวัดกาญจนบุรี  มะพร้าวนำ้หอมในลูกมะพร้าวหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อยเย็นชื่นใจ เสิร์ฟเป็น Welcome Drink เวลคัมดริ่งให้การต้อนรับกับคณะของเรา

         จากนั้นฟังบรรยยายสรุปจากผู้นำชุมชน ถึงความเป็นมาเป็นไปของชุมชน ต่อด้วยการ สาธิตเครื่องจักสานจากเส้นพลาสติก ทำเป็นกระบอกใส่ดินสอ ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำ เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับนักท่องเที่ยว โดยมีกลุ่มแม่บ้านเครื่องจักสานคอยสอนให้เป็นกลุ่มๆ ใช้เวลาไม่นานก็สานกันเป็นทุกคน สำเร็จก็รับกระบอกดินสอกลับบ้านกันทุกคน

               ชมการสาธิตทำพริกแกง

       สานกระบอกเสร็จก็มาดูการสาธิตการทำพริกแกง ทำกันสดๆทุกวันและขายหมดทุกวัน ส่วนผสมก็ไม่ปิดบังเปิดหมด กลุ่มที่มาเรียนรู้ดูงานก็เอาไปทำต่อเป็นอาชีพได้

          เริ่มต้นด้วยการนำเอา พริกจินดาตากแห้ง พริกใหญ่ตากแห้ง กระเทียม ข่า ตระไคร้ ผิวมะกรูดหั่น กะปิ มาใส่กะละมังคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาปั่นทั้งหมด 3 ครั้ง ปั่นหยาบ ปั่นกลาง ปั่นละเอียด เสร็จแล้วก็เอามาบรรจุใส่กล่อง พร้อมส่งจำหน่าย ง่ายๆแค่นี้ก็สามารถทำเป็นรายเสริมของคนในชุมชนได้

             ชมการสาธิตทำขนมนางเล็ด

     ต่อมาก็มาชมการสาธิตการทำขนมนางเล็ด ขนมนางเล็ดของชุมชนหนองทรายจะไม่เหมือนของที่อื่น เพราะได้รับการพัฒนาให้เขากับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพิ่มมาขึ้น ขนมจะมีชิ้นเล็กพอดีคำ สีสันสดใส ทำวันต่อวัน ทอดในน้ำมันใหม่สดเสมอ ภาชนะเหมาะสมสะดวกในการรับประทาน เคี้ยวกรอบหวานน้อย ทานเล่นได้ทั้งวัน เหมาะซื้อเป็นของฝากกลับบ้าน

           ชมการสาธิตการท่อผ้าขาวม้า

      คณะของเราเดินทางชมการสาธิตตามกลุ่มต่างๆในชุมชนด้วยรถรางของชุมชน ระหว่างเสร็จจากการชมการสาธิตทำขนมนางเล็ด ก็มาดูการสาธิตการท่อผ้าขาวม้าต่อครับ

        กลุ่มทอผ้าขาวมามีกี่ทอผ้าอยู่ประมาณ 4 – 5 กี่ ทอทั้งผ้าขาวม้าและผ้าพันคอ ลวดลายเส้นตาราง ใช้สีสด มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เส้นฝ้ายย้อมด้วยสีทำจากธรรมชาติ เนื้อผ้าอ่อนนุ่ม ซับน้ำได้ดี และราคาไม่แพง

            ชมพระอาทิตย์ตกที่แปลงนาหญ้าแพงโกล่า

    ถือเป็นไฮไลท์ของชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองทราย อำเภอหนองสาหร่าย จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยการมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่แปลงนาหญ้าแพงโกล่า เป็นหญ้าสำหรัญเลี้ยงม้าแข่ง พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทำรายได้ให้กับชุมชน เพราะเป็นพืชปลูกง่าย โตไว ปลูกแล้วทิ้งได้เลยไม่ต้องลดน้ำ ไม่ต้องดูแลมาก

       เรามาถึงแปลงนาหญ้าแพงโก ในตอนเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตก ทุกคนต่างวิ่งลงไปในแปลงหญ้า หามุมถ่ายรูปกันตามใจชอบ เป็นภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ท่ามกลางแปลงหญ้าแพงโกที่เขียวขจี ที่หาชมที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

            งานเลี้ยงต้อนรับ รับประทานมื้อค่ำ พักโฮมสเตย์กับชุมชน

     หลังกลับจากชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ก็กลับมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ทานข้าวเย็นกับชุมชน ชมการแสดงเพลงเหย่ย ก็เหมือนกับฉ่อยจังหวัดสุพรรณบุรีนั้นเอง มีแม่เพลงและพ่อเพลงเป็นคนร้องนำ

      พร้อมลูกคู่มีทั้งหญิงและชาย การร้องพอแม่เพลงร้องไปท่อนหนึ่งลูกคู่ก็จะค่อยรับให้ วง Backup ก็จะเป็นวงกลองยาว ทานอาหารชมการแสดงก็นอนโฮมสเตย์ของชุมชน ก็สะดวกสบายดีเหมือนที่บ้านญาติในต่างจังหวัด

            เรียนรู้การทำไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่

       ทานอาหารเช้าที่โฮมสเตย์ของชุมชนเรียบร้อย ผู้นำชุมชนได้นำชมสวนมะพร้าวริมบ่อเลี้ยงปลากลางชุมชน ชมแปลงปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสาร ก่อนที่จะมา เรียนรู้การทำไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่ชุมชนปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย ก็เลยนำทำ ไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย ส่วนผสมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ก็เหมือนกับการทำไอศกรีมทั่วไป

       เพียงแต่มีการนำข้าวไรซ์เบอร์รีผสมลงไปเท่านั้น ก็จะได้ไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่ สีออกน้ำตาลหน่อย รสชาติหวานมันกำลังดี แต่จะมีกลิ่นหอมของข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย นอกจากนี้ก็ยังนำข้าวไรซ์เบอร์รี่มาใส่เพิ่มลงไปในไอศกรีมแทนข้าวเหนียวดำอีกด้วย

             เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เชื่อมโยง 3 บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ( EP กาญจนบุรี  ) จบลงที่การเรียนรู้การทำไอศกรีมข้าวไรซ์เบอร์รี่  แต่ยังไม่จบยังมีต่ออีก 1 EP  1 จังหวัด ติดตามต่อได้ใน EP ราชบุรี ครับ