THEWAYNEWS > Travel > In bound > เชียงราย ที่สุดแห่งชา กาแฟ อาหารอร่อย ยอดดอยงาม (Delicious Destination @ Chiangrai) “EP ดอยแม่สลอง”

      เชียงราย ที่สุดแห่งชา กาแฟ อาหารอร่อย ยอดดอยงาม (Delicious Destination @ Chiangrai) “EP ดอยแม่สลอง

                   เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา

           องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ร่วมกับ   สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) จัดโครงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในพื้นที่พิเศษของ อพท. เพื่อสร้างทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร ให้เป็นทางเลือกกับนักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชน ลดช่องว่างการเหลื่อมล้ำทางสังคม และอนุรักษ์อาหารถิ่นให้คงอยู่คู่ไทย มาปิดท้ายที่จังหวัดเชียงราย ในกิจกรรม เชียงราย ที่สุดแห่งชา กาแฟ อาหารอร่อย ยอดดอยงาม (Delicious Destination @ Chiangrai) “EP ดอยแม่สลอง

                   เชียงราย ที่สุดแห่งชา กาแฟ อาหารอร่อย ยอดดอยงาม

           “Delicious Destination” จากเพชรบุรี ไปจันทรบุรี ต่อด้วยตราด ในทริปนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายของเส้นทางความอร่อยของ อพท. จังหวัดเชียงรายในอดีตคือ หิรัญนครเงินยางเชียงแสน เป็นศูนย์กลางทางการค้า เชื่อม 3 ประเทศ พม่า ไทย ลาว ด้วยสายน้ำโขง มาจนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้น เพิ่มเติมด้วยการเป็นเมืองท่องเที่ยวเหนือสุดของประเทศไทย ธรรมชาติสวยงาม บนดอยอากาศเย็นสบาย คนเมืองน่ารัก อัธยาศัยดี ภาษาคำเมืองเสนาะหู การท่องเที่ยวโดยชุมชน จึงเติบโต

           ลมหนาวมาแล้วก็ต้องไปเต๊อะไปแอ่วจังหวักเจียงฮาย สัมผัสวิถีชุมชนคนบนดอยหลายชนเผ่า  ใช้ชีวิตแบบ slow life ขึ้นดอยชมวิวสวยหลักล้านหลายดอย จิบไร่ชา ดื่มกาแฟ ม่วนอกม่วนใจ๋ ชิมอาหารอร่อยในบรรยากาศ ตอนยอน ต๊ะตอนยอน ที่พักมีให้เลือกหลายแบบ โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ได้เที่ยวด้วยกันครับ

              ต้มเลือดหมู จิงจูฉ่าย ร้านสหรส

       มื้อเช้าที่เชียงรายมาทานต้มเลือดหมูร้อนๆที่ ร้านสหรส กลางเมืองเชียงราย เมนูหลักร้านเขาขายต้มเลือดหมู ทำไมถึงต้องที่นี่ ก็เฉพาะเขาใส่ผัก จิงจูฉ่าย ในต้มเลือดหมูแทนใบตำลึง เหมือนร้านอื่นทั่วไป จิงจูฉ่าย มีสารไลโมนีน ซิลนีน และสารไกลโคไซด์ ซึ่งให้สรรพคุณทางยาหลายอย่างเช่น ลดความดัน ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ขับลมในลำไส้ ลดอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ

        รสชาติของต้มเลือหมูก็ สหรส สมชื่อร้าน น้ำซุปเข้มข้นหอมพริกไทย เครื่องในนุ่มเปื่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยจนต้องสั่งเพิ่มเป็นชามที่สอง นอกจากนี้ทางร้านเขายังมีเมนูข้าวต้มปลา เพิ่มเป็นทางเลือกให้กับคนที่ไม่ชอบทานเครื่องในหมู และมีเมนูข้าวต้มปลาเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ปลาที่ใช้เป็นปลายทับทิม เนื้อปลาสด ชินใหญ่ เนื้อแน่น อร่อยไม่แท้ต้มเลือดหมู จิงจูฉ่าย เหมือนกัน

             ชมไร่สับปะรด ชิมแกงฮังเลสับปะรด ชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์

    ชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย คนดั่งเดิมของชุมชนอพยพมาจากเชียงใหม่ และบางส่วนก็อพยพมาจากอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จึงได้นำคำว่าป่าซางมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้าน บ้านป่าซางวิวัฒน์ นอกจากนี้ในชุมชนยังมี จุดเรียนรู้ที่น่าสนใจจำนวน 6 จุด ได้แก่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรียนรู้การคัดแยกขยะ ครัวเรือนต้นแบบ เกษตรทฤษฎีใหม่ไร่นาสวนผสม

         อิ่มแล้วก็เดินทางต่อมาที่ ชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ ได้รับการต้อนรับด้วยน้ำสับปะรดนางแล หวานอมเปรี้ยวกำลังดี ทานกับพายสับปะรดภูแล ชีสทาร์ดสับปะรดนางแล จากร้าน ฮัก ณ เชียงราย เข้ากันได้ดี เดินชมไร่สับปะรดในหมู่บ้าน ทานไปด้วย พร้อมฟังคำบรรยายจากผู้นำชุมชน “มีชาวจีนที่อพยพมาจากเชียงใหม่ ได้นำเอาหน่อสับปะรด พันธุ์ปัตตาเวีย หรือพันธุ์น้ำผึ้ง มาปลูกที่นี่เป็นครั้งแรก เพราะผืนดินที่นี่อุดมสมบรูณ์ มีลำห้วยไหลผ่าน อากาศเย็น ปลูกสับปะรดได้ผลดี รสชาติหวานฉ่ำ จึงเป็นหมู่บ้านแห่งสับปะรดนางแล”

         ต่อด้วยชมการสาธิตการทำกระดาษสาจากใบสับประรด วิธีการทำ นำใบสับปะรดมาหันให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอาไปต้มกับโซเดียมไฮดรอกไซด์จนเป็นเส้นใย จากนั้นเอาไปแช่ไว้ในบ่อน้ำ ช้อนเอาใยสับปะรดมาใส่เฟรมไม้ให้เต็ม ยกขึ้นมาแล้วเอาไปผึ่งไว้ให้แห้ง ได้กระดาษสาใบสับปะรด มีความแข็งแรงสูง ให้ความเงางาม นำไปต่อยอดทำผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้หลายอย่าง กล่อง กระเป๋า ปกหนังสือ กรอบรูป เป็นต้น

          ก่อนที่จะทานมื้อกลางวัน ทางชุมชนก็มีการสาธิตทำเมนูแนะนำของ ชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ ก็คือ แกงฮังเลสับปะรดนางแล ส่วนผสมก็มี หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ เครื่องแกงฮังเลสูตรของชุมชน พริกแกงตำสำเร็จ ขิง ข่า หอมแดงหั่นเต๋า กระเทียมดองหั่นซอย ถั่วลิสงคั่วบอหยาบ สับปะรดนางแลหั่นเป็นชิ้นพอคำ น้ำเปล่า

      วิธีการทำนำพริกแกงลงไปพัดในกระทะให้หอมก่อน ใส่หมูสามชั้นลงไปคั่วให้เนื้อหมูพอเด้ง แล้วใส่ผงแกงฮังเลลงไป เติมน้ำลงไปนิดหน่อย คั่วไปจนกว่าหมูจะเปื่อย น้ำแห้งก็ค่อยๆเติมน้ำลงไปทีละน้อย ใส่ถั่วคั่ว กระเทียมดอง ขิง ข่า หอมแดง ลงไป เคล็ดลับก็คือปรุงรสด้วยการใส่สับปะรดนางแลลงไป ได้รสเปรี้ยวแทนน้ำมะขามเปียก กับรสหวานแทนน้ำตาลปี๊บ ส่วนรสเค็มได้จากเกลือของพริกแกงอยู่แล้ว พอหมูเปื่อยได้ที่แล้วตักใส่ถ้วย กลิ่นหอมสับปะรด ชิมแล้วได้รสเค็มนำหวานเปรี้ยวจากเนื้อสับปะรด ทานกับข้าวนึ่งร้อนๆ “อร่อยจนแกงหมดถ้วย” ถ้ามาถึงบ้านป่าซางวิวัฒน์แล้วไม่ได้ชิม แกงฮังเลสับปะรดนางแล ถือว่าผิดพลาดอย่างแรง

            Pasang Coffee กาแฟสับปะรด รสเข้มกาแฟ เปรี้ยวหวานกลมกล่อม

     ออกจากชุมชนบ้านป่าซางวิวัฒน์ มาแวะดื่มกาแฟยามบ่ายสักหน่อย ปากทางเช้าชุมชนมีร้านกาแฟ Pasang Coffee ให้นั่งดื่มแบบชิล ชิล กันด้วยป่าซาง คาเฟ่ ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน ที่ปลูกสับปะรดกันทั้งหมู่บ้าน ร้านมี 2 ชั้น ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ โครงสร้างทำจากเหล็ก ผนังเกล็ดไม้ทำให้ โปร่งแสงสบายตา ช่วยระบายความร้อนได้ดี สนามหญ้าด้านข้างมีชิงช้าไม้ไผ่ให้นั่งเวียงเล่น คอยกาแฟที่ออเดอร์ไว้

      ร้านใช้สับปะรดเป็นตัวหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวอย่างข้าวอบสับปะรด ของหวานอย่างภูแลทาร์ต สับปะรดชีสเค้ก เมนูซิกเนเจอร์ทางร้านก็คือ “กาแฟสับปะรด” หรือป่าซาง คอฟฟี่ (Pasang Coffee) ตั้งตามชื่อร้านเลยครับ เป็นกาแฟอเมริกาโน่เย็น ผสมน้ำสับปะรด ท๊อปปิ้งด้วยสับปะรดนางแลหนึ่งชิ้น ผสมผสานความเป็นพื้นถิ่นร่วมสมัยแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ได้รสกาแฟเข้ม เปรี้ยวหวาน กลมกล่อม จากสับปะรดนางแล เพิ่มความสดชื่นได้ดี มาเชียงรายต้องมาลองครับ

              จิบชา เดินชมไร่ ยามเย็น ไร่ชา 101

      ดื่มกาแฟสับปะรดเพิ่มความสดชื่น แล้วก็เตรียมตัวขึ้นดอยกัน ก่อนถีงที่พักบนดอยแม่สลอง แวะจิบชาเดินชมไร่ชา 101 ยามเย็นกันก่อน เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ที่นี่เขาเป็นไร่ชาขนาดใหญ่แห่งแรกบนดอยแม่สลอง มีชาให้จิบหลายแบบ ชาอู่หลงก้านอ่อน ชาเขียว และชาแดง พนักงานจะสอนวิธีชงชาที่ถูกต้องให้กับนักท่องเที่ยวได้ชม และได้ชิมชาเปรียบเทียบความแตกต่างของชาทั้ง 3 ชนิด ใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อกลับไปชงจิบต่อที่บ้านได้

      สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมชาวจีนยูนนาน ด้วยการจิบชาอู่หลงให้ร่างกายอบอุ่น แล้วก็มาเดินชมไร่ชากันต่อครับ แสงเย็นโรยอ่อน ตะวันรอนกำลังจะลับเหลี่ยมเขา เดินชมไร่ชาสูดอากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย ท่ามกลางแถวแนวขั้นบันได ของต้นชาอู่หลงสีเขียวอ่อน แล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที จะเดินเล่น เช็คอิน ถ่ายรูป ที่นี่เขาก็มีชุดชาวเขาให้เช่าใส่ถ่ายรูปด้วย รีบตักตวงกันตามอัธยาศัย ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

      ถ้าจะพักค้างคืนที่นี่ก็มี 101 Tea Green View บริการห้องพักให้นักท่องเที่ยว ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ หลบจากความวุ่นวาย มาสัมผัสความงามของทิวเขากับไร่ชาอู่หลง ที่รายล้อมบนดอยแม่สลอง เช้าจะได้ชมวิถีการเก็บใบชา และผ่อนคลายด้วยการชิมชาร้อนๆหอมกรุ่น ทานอาหารเช้าแบบท้องถิ่น ให้คุณรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย และผ่อนคลายอย่างแท้จริง

            อิ่มอร่อยกับอาหารจีนยูนาน ร้านคุ้มนายพล

      เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อยก็ออกมาทานมื้อเย็น อิ่มอร่อยกับอาหารจีนยูนาน กันที่ร้านคุ้มนายพล เปิดมาแล้ว 14 ปี เป็นเรือนไม้สไตล์ล้านนา ยกพื้นสูง รอบระเบียงประดับด้วยโคมไฟสีแดง บรรยกาศร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้รอบร้าน ด้านในเป็นโต๊ะอาหารแบบเรียบง่ายนั่งสบาย มีทั้งโต๊ะกลมและโต๊ะเหลี่ยม ให้เลือกนั่งได้หลายมุม เหมือนได้มาทานอาหารที่บ้านพี่บ้านน้อง ได้บรรยายกาศแบบจีนยูนานจริงๆ

        มาที่นี่ก็ต้องมาทานเมนูยอดนิยมของทางร้าน นั้นก็คือขาหมูตุ๋นยาจีน หมั่นโถโฮมเมด การันตีความอร่อยด้วยการที่ลูกค้าสั่งกันเกือบทุกโต๊ะ ขาหมูใช้ขาหน้า ขาเล็กให้มันน้อย ต้มให้เปื่อยใช้เวลาน้อย ตักทานได้ง่าย เครื่องเคียงผักกาดดองหั่นละเอียดต้มจนเปื่อย สูตรของทางร้าน ตัดเลียนได้ดี ที่ขาดไม่ได้ต้องทานคู่กับพริกน้ำสัมปั่น แกล้มกับกระเทียมด้วย อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มอีก 2 ขา เมนูอื่นก็อร่อยทุกอย่าง ยำยอดใบชา เด็ดสดๆจากไร่ชาหลังรา้น เห็ดหอมคั่วเกลือ ชุปไก่ดำ เครายก เสิร์ฟพร้อมชาอูหลงร้อนๆ อิ่มร่อยจริงๆครับ

                ชมพระอาทิตย์ขึ้น ชาร์จพลัง บนดอยแม่สลอง

          มื้อคืนเราพักกันที่ ภูเมฆตะวัน รีสอร์ท มีทั้งแบบอาคารบนเขา และวิลล่าริมเขา ทานข้าวเย็นเสร็จกว่าจะเข้านอนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน เพราะบรรยกาศมันได้ ลมหวานพัดมาเบาๆ อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆหมอก ก็เลยตั้งวงคุยกันเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้า กว่าเข้านอนก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน ถ้าไม่ตั้งนาฬิกาไว้คงตื่นไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นแน่นนอน ที่ดอยแม่สลองมักจะสร้างที่พักหรือรีสอร์ทให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อรับแสงอุ่นๆยามเช้า เพิ่มพลังความสดชื่นให้กับแขกผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

       เช้านี้เราจะไม่ชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่หน้าห้องนอน แต่เราจะไปรุ่งเช้า ชมทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ณ พระบรมธาตุศรีนครินทราสถิตย์มหาสันติคีรี ฉะนั้นเราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้า นั่งรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ 20 นาที พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี สร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เมี่อปี พ.ศ. 2539 เป็นเจดีย์ทรงล้านนาประยุกต์ บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ สูง 30 เมตร เรือนธาตุประดับพระพุทธรูปยืนสี่ทิศ องค์ระฆังประดับแผ่นทองเหลืองอร่าม ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดที่ระดับความสูง 1,500 เมตร เหนือหมู่บ้านสันติคีรี สามารถมองเห็นได้ไกล จึงเป็นสัญลักษณ์ของดอยแม่สลอง

       นักท่องเที่ยวพากันขึ้นดอยมาโดยมิได้นัดหมาย เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ต่างคนต่างจิตต่างใจ เดินหามุมถ่ายรูปต่างกันไป บางคนก็ยืนดูอยู่นิ่งๆคนเดียว อีกคนก็เอาพระอาทิตย์มาไว้บนมือ ที่เหมือนก็คือทุกคนถ่ายรูป เพื่อเก็บบรรยายกาศที่สวยงาม เข้าไปในความทรงจำให้ได้มากที่สุด

        มายืนอยู่ตรงจุดชมวิว ณ พระบรมธาตุศรีนครินทราสถิตย์มหาสันติคีรี สักพักหนึ่งดวงอาทิตย์ก็ค่อยเคลื่อนดวงขึ้นมาหลังเหลี่ยมเขาที่ละน้อย แต่ก็เร็วพอๆกลับกาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไป เป็นช่วงความสุขที่หาไม่ได้ในมหานครใหญ่ พระอาทิตย์ขึ้นที่ไหนก็เหมือนกัน สำหรับบนดอยแม่สลองแล้วไม่เหมือนที่อื่นอย่างแน่นอน ลมหนาวพัดผ่าน อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใสไร้ฝุ่นควัน บรรยกาศเงียบสงบ รับแสงเช้าอ่อนๆ ชาร์จพลังได้เต็มที่ ถ้าอยากหลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เหมาะกับการท่องเที่ยวบนดอยแม่สลองอย่างยิ่ง

                 ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ตลาดเช้า ดอยแม่สลอง

    กลับลงมาจากดอยมาเดิน ตลาดเช้าแม่สลอง กันต่อครับ ตัวตลาดต้องเดินลอดผ่านป้ายของโรงแรมซินแซเข้าไป แม่ค้า พ่อค้า วางของขายอยู่สองข้างทาง ผมหิวข้าวเช้ายังไม่ตกถึงท้อง เลยพักนั่งกินปาท่องโก๋ กับน้ำเต้าหู้ ข้างตลาด ปาท่องโก๋ ตัวละ 2 บาท ตัวใหญ่มาก น้ำเต้าหู้แก้วละ 5 บาท ดื่มร้อนฟิวกู้ดมากครับ ราคานี้หากินไม่ได้ในเมืองใหญ่ แล้วไม่ต้องต่อแถวด้วย เดินมาถึงโต๊ะว่างก็นั่งหยิบกินได้เลย อิ่มแล้วค่อยจ่ายตังค์ทีหลัง

         สินค้าที่ พ่อค้า แม่ค้า เอามาวางขายก็เป็นพืชผลทางเกษตร ที่ปลูกได้บนดอยแม่สลอง เครื่องหัตถกรรมของชาวเขาก็มีมาวางขาย สินค้าแปรรูปก็มีพวกกุนเชียงยูนาน หมูน้ำค้าง หมูรมควันใบชา ไม่ค่อยมีขาย ต้องมาซื้อที่ดอยแม่สลองเท่านั้น ส่วนของกินนอกจากน้ำเต้าหู้  กับปาท่องโก๋ แล้วก็ยังมีขนมปุกงา ทำจากแป้งข้าวเหนียวดำ ผสมน้ำตาลแดง งาดำ ย่างกันร้อนๆ อร่อยหวานมันหอมกลิ่นงา มาถึงดอยแม่สลองแล้วต้องลองชิมขนมปุกงาครับ

          “EP ดอยแม่สลองมาปิดท้ายที่จุดเช็คอิน ใกล้กับตัวตลาดสดแม่สลอง มีจุดเช็คอินถ่ายรูปได้เหมือนกัน แต่ต้องเดินลงมาจากตัวตลาดหน่อย จุดเช็คอินเป็นภาพสีเขียนผนัง ไร่ชาบนดอยแม่สลอง กับรูปอีกรูปเป็นสดุดีวีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกถ่ายแค่ 2 รูป เท่านั้น ต่อไปน่าจะมีมากกว่านี้ครับ เพราะกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปเช็คอินกันหน่อย ยังไม่จบครับสำหรับ เชียงราย ที่สุดแห่งชา กาแฟ อาหาร และยอดดอย (Delicious Destination @ Chiangrai) มีเรื่องของความอร่อย ให้ติดตามใน EP. ต่อไปครับ